ว่ากันถึงเรื่อง โกสด่าง วัว สีหลุด และสโนว์ ว่าทำไม

HOWTO-Crayfish


1.โกสคืออะไร?
              - โกส เกิดจากมนุษย์ เป็นผู้บรีดขึ้นมา ผ่านการบรีดจากกุ้งสาย P ที่มีตามธรรมชาติ เช่นสโนว์ ไบร์ท เร้ดเจแปน บลูสปอร์ต ผสมกันเองในหมู่วงศ์ตระกูลเดียวกัน เกิดการอินบรีด(การผสมในหมู่ครอกเดียวกัน) ทำให้เกิดเลือดชิต และยีนด้อย จากรุ่นสู่รุ่น มาไม่ต่ำกว่า 10 รุ่นอายุกุ้ง จนเกิดแพทเทินโกสขึ้นมา


2.ทำไมโกสต้องเพาะในห้องแอร์? ในเมื่อกุ้งสีธรรมดาก็เพาะในอุณหภูมิปรกติได้?
              - ก็เนื่องจากโกส เกิดจากยีนด้อย ด้วยน้ำมือมนุษย์ กล่าวคือ การอินบรีดนี้ ช่วงอายุขัยของกุ้งก็จะสั้นลง แต่ก็แลกมาด้วยกับความสวยงาม ความเว้าแหว่งของเม็ดสี ที่สวยแปลกตามากขึ้น เปรียบดังคน ก็คือคนที่ผิวหนังผิดปรกติ และไม่แข็งแรง คนไม่แข็งแรงก็มีลูกยาก เอาให้เห็นภาพก็หมาเหมือนกัน ทำไมหมาไทย อยู่ได้ทุกสภาวะ ไซบีเรียน ไม่อยู่ในห้องแอร์ขนก็ร่วง ยิ่งถ้าใครเลี้ยงกุ้งแคระจะรู้ทันที ว่ากุ้งเร้ดบี เลี้ยงยากแค่ไหน ถามว่า ในอุณหภูมิปรกติเพาะได้มั้ย ตอบว่าได้ครับ แต่โอกาสจะน้อยกว่า คนที่เลี้ยงกว่าควบคุมอุณหภูมิ ถ้าจะเปรียบกับกุ้ง ถ้าเราเลี้ยงกุ้งแบบให้เทวดาเลี้ยงทิ้งๆขว้างๆ กับเลี้ยงเป็นระบบฟาร์มปิด แบบในสัตว์เศรษฐกิจตัวอื่นๆ ของค่ายยักษ์ใหญ่ แบบไหนจะได้ผลผลิตที่ดีกว่ากัน
วกกลับมาที่เรื่องโกส

3.ทำไมหน้าฝนคนถึงเพาะกุ้งได้ ไม่เห็นต้องในห้องแอร์เลย?
               - ในหน้านี้ของเมืองไทย คือหน้าฝน ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศจะสูง ซึ่งเหมาะแก่การขยายพันธุ์ของกุ้งเครฟิช จึงทำให้เราเห็นลูกโกส ออกมาสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าหลังมกราขึ้นไป หรือพอเข้าหน้าร้อน กุ้งก็จะขาดตลาดทุกปี ซึ่งการเลี้ยงควบคุมอุหภมิก็จะเป็นข้อได้เปรียบครับ ส่วนคนที่เพาะในหม้อดินได้ ก็ถือว่าเก่งมากแล้วครับ แต่ถ้าเลี้ยงในปริมาณเยอะ ก็เป็นเรื่องที่จะต้องหาทางควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ต่อไป 

4.โกส+โกส ลูกออกมาหน้าตาเป็นยังไง
               -ในกุ้งที่เลือดนิ่งแล้ว สมัยก่อน คนเพาะ ก็จะเลือกกุ้งที่หน้าตาคล้ายๆกัน เพื่อให้ลูกที่ออกมา คาดเดาได้ ว่าเหมือนพ่อแม่ แต่การเลี้ยงโกส เนืองด้วยความอิสระ ในการบรีด การผสมกัยได้ทุกแพทเทิน ทำให้ผู้เพาะเลี้ยง นักพัฒนาสายพันธุ์ ได้ทดลองนำกุ้งต่างแพทเทิน มาลองผสมกัน เพื่อให้เกิดกุ้งแพทเทินใหม่ ออกมาสู่ตลาด ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีต่อวงการกุ้งสวยงามบ้านเรา ย้อนมาที่คำถาม โกส+โกส ลูกออกมาก็ต้องเป็นโกสแน่นอนครับ เพราะโกส เป็นกุ้งยีนด้อยที่ค่อนข้างนิ่งในระดับนึงแล้วนั่นเองครับ

5.โกสลายธงชาติ+โกสส้มล่ะ ลูกออกมาเป็นยังไง?
              -จากการทดลองโดยส่วนตัว ที่เห็นผลชัดเจน ต้องทำความเข้าใจก่อน ว่ากุ้งเครฟิชตระกูลคาร์กี้ เป็นสัตว์ที่ออกลูกเป็นครอก และที่น่าตกใจ ในแม่กุ้ง 1 ตัว สามารถเก็บกักน้ำเชื้อตัวผู้ ได้มากกว่า 1 ตัว นั่นคือ ถ้าคุณมีแม่โกสส้ม คุณเอาพ่อโกสฟ้าทับ และคุณเอาโกสลายธงชาติทับอีก ในกรณีที่ยีนเสมอกัน ลูกที่ออกมา ก็จะมีโอกาสเป็นไปได้ทั้ง โกสฟ้า โกสส้ม และโกสลายธงชาตินั่นเองครับ ส่วนถ้าทับกันแบบ ตัวต่อตัว เช่นโกสลายธงชาติ ผสมโกสส้มล่ะ ถ้ายีนเสมอกัน ซึ่งส่วนใหญ่ โกสก็จะยีนค่อนข้างด้อยไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว ลูกที่ออกมา ก็จะออกแบ่งไปทางพ่อและแม่ อย่างละ 45% และจะมีส่วนน้อยประมาณ 5-10% ที่ลูกจะออกมา เป็นการผสมผสานของแพทเทินพ่อและแม่กุ้งในตัวเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ที่จะนำกุ้งหลุดๆเหล่านั้น นำมาพัฒนาต่อไป เพื่อสร้างแพทเทินใหม่ๆ ตามหลักกการพัฒนาสายพันธุ์ทั่วไปนั่นเอง


6.โกสด่าง วัว คืออะไร เกิดจากอะไร?
            -ไม่บอก บอกเค้าก็รู้หมดสิ ว่าเกิดจากสโนว์ อิอิ

7.บอกหน่อยน่า กูรู้เค้าอุตส่าห์มโน ว่าเกิดจากสโนว์ จากมิก
- อ่ะๆ ตามความเข้าใจแบบงูๆปลาๆ โกสด่าง เกิดจากการอินบรีดในครอกเดียวกันของโกสแพทเทินดั้งเดิม ซึ่งในมัยก่อนกุ้งผ่าเหล่าแบบนี้ จะเป็นกุ้งที่ถูกคัดทิ้ง ไม่มีราคาค่างวดอะไร เป็นกุ้งที่ เมื่ออินบรีดมากๆ ก้จะเกิดความเว้าแหว่งของเม็ดสีจนเกิดเป็นโกสสีหลุดในชั้น F1 แต่ยีนสีสามารถส่งต่อไปยังลูกกุ้งในชั้น F2 ได้ (ไม่งงนะ)

8.แล้วผม จะแยก โกสสีหลุด กับ สโนว์ออกได้อย่างไร?
- ส่วนตัวผมมีวิธีดูของผม ที่ต้องใช้ไฟที่มีความสว่างสูง ในการส่องดูเม็ดสีที่ซ่อนอยู่ภายใน เฉกเช่นการส่องพระ อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล จะไม่ขอนำมาเผยแพร่นะครับ (กลัวหน้าแตก) จริงๆ ลักษณะทางกายภาพภายนอกดูค่อนข้างยาก ซึ่งตรงนี้ก้ต้องอาศัยจรรยาบรรณของคนขายล้วนๆครับ แต่อย่างนึงที่พอจะบอกได้คือ โกส ถ้าตัวเหลือง นั่นคือเขาโตไวเกินอายุ ทำให้เม็ดสีมาช้า แต่มาแน่นอนครับ แต่ถ้า 3.5 นิ้วยังสีไม่มา อันนั้นก็อาจจะตีกุ้งตัวนั้นตกเกรดไป

9.แล้วถ้าโกส ผสมโกสสีหลุดล่ะ
-ในแนวคิดของผม โกสสีหลุด ในการเพาะ แตกต่างจากสโนวแน่นอน เพราะโกสที่สีหลุด จะเป็นกุ้งที่ยีนด้อยมากๆ เปรียบดังงานศิลปะ ก็เหมาะที่จะเป็นสีพื้น ให้ตัวพ่อพันธุ์ ส่งต่อยีนสีของตนเองได้เต็มที่ และยีนสีแทรกเข้าไปผสมในอัตราส่วนผสมได้อย่างลงตัว มากกว่าอัตราส่วนของการผสมในแพทเทินปรกติที่ยีนเสมอกันที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งก็เป็นแนวคิดในการทำโกสด่าง หรือโกสวัวของผมนั่นเองครับ

10.แล้วถ้าเอาโกส ผสมกับสโนวล่ะ?
- เละครับ ยีนของโกสจะถูกยีนของสโนว์กลบหมด ลูกกุ้งที่ออกมา จะกลายเป็นสโนว และที่เหลือจะลายกลายเป็นหินอ่อน หรือที่เรียกกันว่ามิกนั้นเองครับ ตามหลักไม่ควรนำมาผสม เพราะจะเป็นการพัฒนาถอยหลังลงคลอง เหมาะสำหรับนักเพาะ นักพัฒนา ที่ต้องการดูการพัฒนาสีสันในแต่ละรุ่น ซึ่งส่วนตัว กุ้งพวกนี้ ผมจะคัดแยก เพาะเพื่อการศึกษา เอาไปจำหน่ายจ่ายแจกเสีมากกว่า ซึ่งกุ้งสมัยนี้โตไว ใครที่เอาโกสผสมสโนว์มาขาย ก็จะเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ เนื่องจากโตมาเป็นมิกแน่นอน หรือดูง่ายๆ ไข่ของสโนว์ จะเป็นสีขาว ส่วนไข่ของโกสจะเป็นสีเหลืองทองในช่วงใกล้ลงเดินครับ ซึ่งก็เป็นที่น่าแปลกใจว่า คนที่รับกุ้งเมืองนอกเมืองนามาขาย ระดับนักขายกุ้งในตำนาน จะไม่รู้เรื่องการอินบรีดเลย หรือเพราะว่าไม่เคยเพาะกุ้งเองเลย ไม่รู้ว่าไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ แต่ดูแล้วคงไม่รู้จริงๆนั่นแหละ เลยแสดงแสนยานุภาพโพสโชว์ศาสตร์ความรู้อันเอกอุที่ตัวเองมี ทำให้มือใหม่หลายๆคน ต้องรีบวิ่งไปหาสโนว์มาเพาะกันเลยทีเดียว

          สุดท้ายนี้ ก็อยากจะฝากถึงนักขายกุ้งนอกในตำนานว่า ไม่มีใครรู้ หรือเก่งไปทุกเรื่อง สิ่งใดที่ไม่รู้ ก็ควรจะศึกษาก่อน การโพสอะไรลงไป จะด้วยความคึกคะนอง ก็ต้องหมั่นศึกษาผลกระทบให้รอบด้าน ถ้าตนเองมีความรู้ก็ดีไป แต่ถ้าไม่รู้แมวน้ำอะไรเลย ก็อย่าไปโพสอะไรสุ่ม 4 สุ่ม 5 อย่าไปก้าวล่วงคนอื่น คนที่เขาไม่รู้เขาติดตามคุณ เพราะคิดว่าคุณเก่ง มันก็จะพากันตกเหวไปเสียหมด และก็จะกลายเป็นตัวตลกในสาตาคนอื่น และทำให้ความน่าเชื่อถือในการค้าขายด้อยลงไป ส่วนท่านที่อ่านแล้วคิดว่ามีประโยชน์สาระ ก็จงแชร์กันโดยพลันเถิด ตามอัธยาศัย ส่วนผม ขอตัวไปไล่กวาดสโนว์เข้าบ้านมาทำโกสวัวก่อนครับ อิอิ
**ท่านใดมีอะไรสงสัย ก็ถามกันไว้ในกระทู้นะครับ ** 
ขอขอบคุณบทความดีจากคุณ 
ณัฐชัย ประมวลวงศ์
 

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.